• วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    นางสาวกนกพิชญ์ อักษรคิด 2019

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    นางสาวกนกพิชญ์ อักษรคิด 2019

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

  • วิทยาลัยเทคโนโลยีอาเซียนบริหารธุรกิจ
    10/8 ซ.สุนทรภู่4 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง 21110

วันปิยมหาราช

????????วันปิยมหาราช????????
ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมเกล้ารำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกร จึงได้รับพระราชสมัญญาว่า “สมเด็จพระปิยมหาราช”
ซึ่งแปลว่า “พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่ง”
ความสำคัญของวันปิยะมหาราช
1. เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงพัฒนาประเทศให้ทันสมัย
2. เพื่อยกย่องพระองค์ท่านในฐานะ “พระผู้ปกครองด้วยความรักและเมตตา
3. เป็นวันหยุดราชการทั่วประเทศ
พระราชกรณียกิจที่สำคัญของรัชกาลที่ 5
เลิกทาส ให้ประชาชนมีเสรีภาพ
ปฏิรูประบบราชการ จัดตั้งกระทรวง ทบวง กรม
พัฒนาการคมนาคม เช่น การสร้างทางรถไฟสายแรกของไทย...
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) กับ วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร
รัฐบาลอังกฤษ ถวายพระบรมสารีริกธาตุ แด่ รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินเพียงพระองค์เดียว ที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง
ย้อนหลังกลับไปเมื่อร.ศ.115 หรือตรงกันกับพ.ศ.2439 อินเดียยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษเมื่อมีการค้นพบทางโบราณคดีครั้งยิ่งใหญ่ ณ หมู่บ้านปิปราห์วา (Piprahwa) ประเทศอินเดีย ซึ่งเหล่านักวิชาการเชื่อกันอย่างยิ่งว่าเป็นที่ตั้งของ "กรุงกบิลพัสดุ์" ในอดีต แคว้นศากยะ อันเป็นแผ่นดินเกิดและถิ่นที่ประทับของเจ้าชายสิทธัตถะก่อนออกผนวช มิสเตอร์วิลเลียม เปปเป วิศวกรชาวอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นอาศัยอยู่ในประเทศใต้อาณานิคมอย่างอินเดีย ได้เห็นลูกไฟสว่างไสวจากที่พักของเขา แสงประหลาดนั้นเปล่งแสงท่ามกลางความมืดของยามราตรี วิศวกรจากอังกฤษรายนั้นเห็นว่าทิศทางของแสงอยู่ทางสถูปร้าง วันต่อมาเขาไปขุดบริเวณนั้นและได้พบกับผอบบรรจุของบางอย่าง โดยผอบนั้นมีจารึกตัวอักษรโบราณกำกับไว้ด้วย
ในการขุดค้นครั้งนั้น ซึ่งนำโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ (Mr. William Claxton Peppé) ได้พบสถูปโบราณ และที่สำคัญที่สุดคือการค้นพบผอบศิลาที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมกับมีจารึกอักษรพราหมีโบราณสลักไว้
ภายหลังจึงทราบว่า เป็นอักษรโบราณซึ่งถอดความโดยผู้เชี่ยวชาญออกมาได้ความว่าของในผอบนั้นคือ “พระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในส่วนของศากยะราชสกุล ซึ่งได้รับการแบ่งไปในคราวโทณพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ภายหลังถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระหลังพุทธกาล” ซึ่งแปลความได้ว่า นี่คือส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ถวายแด่ "พระญาติศากยวงศ์" ของพระองค์ ถือเป็นการยืนยันทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงถึงองค์พระศาสดาโดยตรง
เมื่อรัฐบาลอังกฤษประจำอินเดียในขณะนั้น (นำโดยลอร์ดเคอร์ซอน อุปราชแห่งอินเดีย) ได้รับทราบเรื่องราวนี้ ก็เล็งเห็นว่าสยามเป็นประเทศเอกราชที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคงและมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อัครศาสนูปถัมภก จึงได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบรมสารีริกธาตุส่วนนี้แด่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เพื่อแบ่งปันมรดกธรรมอันล้ำค่านี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ขณะดำรงยศเป็นพระยาสุขุมนัยวินิต เป็นผู้แทนรัฐบาล ออกเดินทางไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากรัฐบาลประเทศอินเดีย กลับสู่สยามประเทศ และได้มีจดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า ในพิธีรับมอบ เจ้าพระยายมราชเกิดความสงสัยในพระบรมสารีริกธาตุ พลันก็ปรากฏรัศมีเป็นประกายแผ่ออกจากพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่น่าอัศจรรย์ จนหมดความสงสัย ขณะเดินทางกลับเรือได้เผชิญพายุอย่างหนัก ท่านได้อธิษฐานขอบารมีจากพระบรมสารีริกธาตุ ให้ปลอดภัย ก็ปรากฏรัศมีพวยพุ่งออกจากพระบรมสารีริกธาตุ พายุได้พลันสงบลง
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ปีพุทธศักราช 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้พสกนิกรชาวไทยได้มีโอกาสสักการะบูชาองค์แทนของพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาประดิษฐานอย่างสมพระเกียรติ ณ พระเจดีย์บรมบรรพต ภูเขาทอง วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร แห่งนี้ ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ในรัชสมัยของพระองค์ ให้เป็นศูนย์รวมใจกลางพระนคร และ ประกอบพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ อย่างยิ่งใหญ่ เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน นับตั้งแต่นั้นมา และพระองค์ได้แจกจ่ายไปให้กับประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาต่างๆ เช่น พม่า ลาว ลังกา ญี่ปุ่น ไซบีเรีย เป็นต้น
อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานถุงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดียนั้น แก่ เจ้าพระยายมราช นำไปเก็บรักษาไว้ เพื่อเป็นบรรณาการในการเป็นผู้แทนรัฐบาลกรุงสยาม ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในคราวนั้นด้วย ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุ ได้เสด็จมาเพิ่ม ในถุงบรรจุ ของเจ้าพระยายมราชนั้น เมื่อนำความ ขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาทราบแล้ว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช นำไปเก็บรักษาสักการะ บูชาไว้ที่บ้านของท่าน ตามเดิม
แต่ภายหลัง ผู้สืบสกุลเจ้าพระยายมราช ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนนั้น มาถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งคณะสงฆ์วัดสระเกศ พร้อมพุทธศาสนิกชน ทั้งมวล เห็นสมควรอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งผู้สืบสกุลเจ้าพระยายมราช ได้อัญเชิญมาถวายนั้น ขึ้นไปประดิษฐานไว้ ณ พระเจดีย์บรมบรรพต ภูเขาทอง
ดังนั้น การทีพุทธศาสนิกชนได้ขึ้นมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ณ ภูเขาทอง จึงไม่ใช่แค่การไหว้พระเจดีย์ทั่วไป แต่คือการได้มาอยู่เบื้องหน้าพระบรมสารีริกธาตุที่มาจาก "บ้านเกิด" ของพระองค์โดยแท้จริง นับเป็นสิริมงคลสูงสุดแก่ชีวิตและแผ่นดินไทยสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
???????? น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ????????
------------------------------------------------------
???? เปิดรับสมัครออนไลน์ ????
พร้อมตอบโจทย์ ในทุก ๆ ความชอบและความถนัด ?
? เรียนจบ มีงานทำ สถานประกอบการรองรับ
? สามารถนำไปต่อยอดในระดับที่สูงกว่าได้
? เปิดรับทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ
? เลือกเวลาเรียนได้
? ทำงานก็เรียนได้
ระดับ ปวช. (หลักสูตร 3 ปี)
ระดับ ปวส. (หลักสูตร 2 ปี)
ระบบปกติ (รอบเช้า-รอบบ่าย) และ ระบบทวิภาคี
3 ประเภทวิชา
1. อุตสาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีสารสนเทศ
สาขาเทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล
2. อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
สาขาการโรงแรม
3. บริหารธุรกิจ
สาขาการบัญชี
สาขาการตลาด
????ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ????
อยู่ที่ไหนก็สมัครได้ ?????
การศึกษาที่ดีเริ่มได้ที่ A-BATC ?
สนใจติดต่อ 038 026 400, 089 671 1444
23 ต.ค. 68 | รับชม : 9 ครั้ง